วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
ภาพกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
http://en.wikipedia.org/wiki/File:Asian_Financial_Crisis_EN-2009-05-05.png
วิกฤติเศรษฐกิจในประเทศไทยนั้น มีอยู่หลายประเภทไม่ว่าจะเป็น
วิกฤติการเงิน วิกฤติธนาคาร หรือวิกฤติหนี้ระหว่างประเทศ โดยอาจเกิดจากการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด
หรือเกิดจากกลไกทางเศรษฐกิจที่ผิดพลาด
วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเป็นหนึ่งในตัวอย่างของวิกฤติเศรษฐกิจทางด้านการเงิน
ประวัติของวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
ภาพการ์ตูนวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
http://npc-se.co.th
พ.ศ. 2540
มีการไหลเข้าของทุนรวมสู่ประเทศในทวีปเอเชีย โดยที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่สามารถรักษาอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง
นักลงทุนชาวต่างชาติจึงเข้าสู่ภูมิภาคนี้กันมากขึ้น เราจะเห็นได้ว่า ผลดีคือ
ประเทศไทย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย หรือมาเลเซีย
มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงเป็นอย่างมาก มีเงินเข้าภูมิภาคเป็นปริมาณมาก
รวมทั้งมูลค่าสินทรัพย์สะสมก็เพิ่มขึ้น
ในช่วงนั้นทวีปเอเชียได้รับการกล่าวว่าเข้าสู่ช่วง “ปาฏิหาริย์เศรษฐกิจแห่งเอเชีย”
แต่ “พอล ครุกแมน”
นักเศรษฐศาสตร์ผู้หนึ่งไม่เห็นด้วยว่าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนี้จะเกิดผลดี
เขากล่าวว่าการเจริญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้เกิดจากการลงทุน
แต่ปัจจัยรวมด้านผลิตภาพนั้นแทบไม่เพิ่มขึ้น
ซึ่งตามหลักแล้วการเจริญโดยที่ปัจจัยรวมเพิ่มขึ้นนั้น ถือเป็นการเจริญที่แท้จริง
คือมีความมั่นคง และมั่งคั่งในระยะยาว ซึ่งต่อมาก็ได้เกิดวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้งขึ้น
โดยมีจุดเริ่มต้นที่ประเทศไทย ในสมัยของรัฐบาล พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
การนำไปสู่วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
รัฐบาลไทยสมัยนั้นประกาศลอยตัวค่าเงินบาท โดยตัดการอิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ผลทำให้ค่าเงินบาทลดลงอย่างมาก
ไม่นานวิกฤตินี้ก็ขยายสู่ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมทั้งญี่ปุ่นอีกด้วย ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ มีการปรับตัวลดลง
ส่วนภาคเอกชนก็มีหนี้สินเพิ่มขึ้น โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดนั้น ได้แก่
เกาหลีใต้ ไทย และอินโดนีเซีย แต่ พ.ศ. 2542 เศรษฐกิจก็เริ่มฟื้นตัว
สาเหตุของวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง อาจแบ่งได้ 5 สาเหตุดังนี้
1. หนี้ต่างประเทศ
ประเทศไทยเกิดการขยายตัวทางระบบการเงิน
เกิดการก่อหนี้ และการกู้เงินจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจาก
- พ.ศ. 2533 ไทยเปิดระบบการเงินสู่สากล ตามพันธะสัญญาใน IMF
- พ.ศ. 2534 ไทยประกาศปริวรรตเงินตราต่างประเทศ (การปริวรรตเงินตราต่างประเทศ หรือ International
Monetary System คือ แนวทางการควบคุมปริมาณเงิน โดยประเทศต่าง ๆ
จะรักษาค่าของเงินให้คงที่ จากการเทียบกับสิ่งของบางอย่าง
ส่วนใหญ่ใช้โลหะเงินและทองคำ)
- พ.ศ. 2535 ธนาคารพาณิชย์ตั้งกิจการ “วิเทศธนกิจไทย” ( BIBF – Bangkok International
Banking Facilities คือ ธนาคารที่ทำธุรกรรมการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศ
แล้วนำมาให้กู้ทั้งภายในและนอกประเทศไทย หรือคือการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีนั่นเอง
) และในปี พ.ศ. 2536 มีธนาคารพาณิชย์ 46 แห่งได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ แต่รัฐบาลไม่มีการดูแลที่มีประสิทธิภาพ
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการลงข่าวการอนุมัติ BIBF
http://www.doctorwe.com/variety/20120522/1279
2.
การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
ประเทศไทยมีการพัฒนาการผลิตเพื่อส่งออก
ที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกิดการขาดดุลอย่างต่อเนื่อง
เพราะการส่งออกที่หดตัว
3. ฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
อาจเรียกว่าการลงทุนที่เกินตัว โดยช่วง
พ.ศ. 2530 ถึง พ.ศ. 2539
กิจการอสังหาริมทรัพย์ เช่น สนามกอล์ฟ ที่อยู่ อาคาร สวนเกษตร หรือสำนักงานต่าง ๆ
เกิดขึ้น และเติบโตมาก แต่มีการกู้ยืมเงินต่างประเทศ และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อมาลงทุน
ต่อมาราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจึงเข้ามาลงทุนกันจำนวนมากเพื่อเก็งกำไร
ก่อให้เกิด “ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่” ( Economic Bubble / Bubble Economy )
เป็นภาวะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงกว่าความเป็นจริง และเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการลงทุนเพิ่มขึ้น
มีการขยายตัวเหมือนฟองสบู่ เราอาจเคยเจอคำว่า “ภาวะฟองสบู่แตก” นั่นคือ
ภาวะฟองสบู่ราคาสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อราคาเริ่มลดลง ผู้ประกอบการจะเลิกลงทุน
เกิดการหดตัวเหมือนฟองสบู่ที่หดตัวอย่างรวดเร็ว และเกิดปัญหาหนี้เสียขึ้นตามมา
เหมือนฟองสบู่ที่แตก ( หนี้เสีย คือ หนี้ที่เมื่อเราทวงจากลูกหนี้แล้ว
ลูกหนี้ไม่สามารถชำระให้ได้ ความหมายคล้ายกับ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ – Non
Performing Loan หรือ NPL ส่วนหนี้สูญ คือ
หนี้ที่เราไม่สามารถทวงจากลูกหนี้ได้ เพราะลูกหนี้อาจหายสาบสูญ หรือเสียชีวิต )
4.
การดำเนินงานของสถาบันการเงิน
- พ.ศ. 2539 ถึง พ.ศ. 2540 รัฐบาลไม่เชื่อมั่นสถาบันการเงินในประเทศ
และสั่งปิดสถาบันการเงินไปถึง 58 สถาบัน โดยรัฐบาลต้องใช้เงินสนับสนุนสถาบันการเงินเหล่านั้นถึง
6 แสนล้านบาท จาก “กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน”
ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารแห่งประเทศไทย
5. การโจมตีค่าเงินบาท
โดยนักลงทุนต่างชาติ มีการจัดตั้งกองทุน
“Hedge Funds” เพื่อโจมตีค่าเงินบาทไทย
ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงนำเงินทุนสำรองถึง 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาปกป้องค่าเงินบาท
เมื่อเงินสำรองมีน้อยลง นายเริงชัย มะระกานนท์ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจึงประกาศ
“ลอยตัวค่าเงินบาท” เมื่อ 2 ก.ค. 2540
เป็นการเริ่มต้นวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
นาย George Soros ผู้ดูแลกองทุน Quantum Fund หนึ่งในกองทุน “Hedge Funds”
http://www.doctorwe.com/variety/20120522/1279
ผลกระทบ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา
- สัดส่วนระหว่าง หนี้ต่างประเทศ กับ GDP เพิ่มสูงขึ้นมาก เช่น ประเทศในอาเซียนเพิ่มจาก 100%
กลายเป็น 180% ในช่วงที่เลวร้ายที่สุดของวิกฤติการณ์
- IMF (หรือ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ) เข้ามารักษาเสถียรภาพสกุลเงินของ ประเทศอินโดนีเซีย
ไทย และเกาหลีใต้ โดยการลงทุน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะ
3 ประเทศดังกล่าวได้รับผลกระทบมากที่สุด
- ประเทศสิงคโปร์ และไต้หวัน
ถือว่าได้รับผลกระทบน้อยมาก จนอาจกล่าวได้ว่า
ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจนี้
- ธุรกิจของเอกชน ไม่ว่าจะเป็น
สถาบันการเงิน บ้านจัดสรร ปิดกิจการ พนักงานถูกปลด มีหนี้เกิดขึ้นมาก มีการกดดันให้รัฐบาลลาออก
-
ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามพยุงค่าเงินบาท โดยใช้เงินสำรองเงินตราต่างประเทศจนหมด
และต้องกู้จาก IMF จำนวน 17,200
ล้านเหรียญสหรัฐ
- สำหรับการแก้ไขนั้น
ไม่มีแนวทางที่ชัดเจน IMF ให้แนวทางโดยดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวด
และปรับโครงสร้างสถาบันการเงิน แต่ก็ส่งผลให้ปัญหาหนักขึ้น โดยราคาสินค้า
และค่าบริการต่าง ๆ แพงขึ้น รัฐบาลชวน หลีกภัย ซึ่งรับตำแหน่งต่อจาก พล.อ.ชวลิต
ยงใจยุทธ จึงเพียงประคองสถานการณ์ และให้ประชาชนหันมาใช้ “เศรษฐกิจพอเพียง” ต่อมา
รัฐบาล พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จึงเริ่มสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินและการทำธุรกิจ
โดยมีการสนับสนุน SMEs กองทุนหมู่บ้าน OTOP ประชาชนจึงมีรายได้เพิ่มขึ้น
แหล่งศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
http://www.slideshare.net/saritsak/ss-4959377
http://wannaratw.tripod.com/fin343_ch7b.htm
http://webboard.news.sanook.com/forum/print_3548912__quot_BIBF_ปฐมเหตุวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี_2540___!!!!_quot_ผลงานรัฐบาลชวน_1.html
http://th.wikipedia.org/wiki/ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่
http://www.thaijustice.com/webboard.asp?sub=0&id=1733143
http://www.doctorwe.com/variety/20120522/1279
http://th.wikipedia.org/wiki/วิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย_พ.ศ._2540
http://www.mbamagazine.net/v2/index.php/blog/45-business-a-management/160--m-m-s
http://mpa2011.blogspot.com/2011/02/blog-post_18.html
http://npc-se.co.th
http://npc-se.co.th
จัดทำโดย
นาย บรรณสรณ์ เพ็งธรรม
ม.5 ห้อง 947 เลขที่ 22
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา